วัดศรีธรรมาราม เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองยโสธร คือ “พระพุทธมงคลรุ่งโรจน์” หรือ “หลวงพ่อพระสุก”
วัดศรีธรรมาราม ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองยโสธร วัดศรีธรรมารามสร้างครั้งแรกประมาณปี พ.ศ. 2395 ในสมัยรัชกาลที่ 4 มูลเหตุของการสร้างวัดมาจากการสิ้นชีวิตของครอบครัวเจ้าอุปราชบุตรและเจ้าคำม่วน ซึ่งเป็นญาติของพระสุนทรราชวงศาฯ (เจ้าฝ่ายบุต) เจ้าผู้ครองเมืองยศสุนทร องค์ที่ 3 ด้วยความอาลัยรันทดในวิบากกรรมของท่านทั้งหลายนั้น เจ้าผู้ครองเมืองจึงได้สร้างวัดนี้ไว้เพื่อเป็นที่รำลึกนึกถึง ด้วยท่านเหล่านั้นได้สิ้นชีวิตโดยการถูกประหารใน "คุกเพลิง" และได้สร้างพระอุโบสถครอบสถานที่ทำการประหาร ชื่อวัดจึงบอกถึงความหมายและความเป็นมา หลังจากการสร้างวัดแล้วก็มีการเปลี่ยนชื่อวัดหลายต่อหลายครั้ง ปี พ.ศ. 2416 พระสุนทรราชวงศาฯ (เจ้าเหม็น) ได้นำไพร่พลชาวเมืองยศสุนทรมาบูรณปฏิสังขรณ์วัดต่อจากพระบิดา เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดศรีธรรมหายโศก” และเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ หวยมีดี ทรงเสด็จฯ มาประพาสเมืองยศสุนทร จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นชื่อวัดเป็น “วัดอโศการาม” ต่อมาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงโปรดประทานชื่อให้ใหม่ว่า “วัดสร่างโศกเกษมสันต์” จนมาปี พ.ศ. 2500 พระครูพิศาลศีลคุณ (บุญสิงห์ สีหนาโท) เป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้นได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัด และเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ว่า “วัดศรีธรรมาราม” ตราบจวบจนปัจจุบัน ภายในวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองคือ “พระพุทธมงคลรุ่งโรจน์” หรือ “หลวงพ่อพระสุก” มีลักษณะขององค์พระที่อ่อนช้อย งดงาม ตามแบบศิลปะล้านช้าง เนื้อองค์พระมีความเก่าและความหนัก บริเวณฐานมีร่องรอยกัดกร่อนด้วยจมน้ำเป็นเวลานาน สันนิษฐานว่าราว 100 ปี จาก พ.ศ. 2371-2467 โดยประมาณ รอยคราบโคลนยังปรากฏให้เห็น ผู้ที่อัญเชิญมาคือ พระยาอุดรธานีฯ อดีตเจ้าเมืองอุดร ซึ่งเป็นข้าฯ พระบาทที่ใกล้ชิดของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีหลักฐานว่า สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงลงความเห็นเกี่ยวกับพระสุก พระเสริม พระใส ว่าเป็นพระพุทธรูปล้านช้างที่งดงามยิ่งกว่าพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ และทรงสันนิษฐานว่าอาจเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากเมืองหนึ่งเมืองใดทางตะวันออกของอาณาจักรล้านช้าง และต่อมาตกอยู่ในเขตล้านช้าง หรืออาจสร้างขึ้นในเขตล้านช้างโดยฝีมือชาวลาวพุงขาวล้านช้าง ซึ่งเป็นไปได้ว่าพระองค์ทรงเคยเห็นพระพุทธรูปทั้ง 3 พระองค์นี้ ท่านพระยาอุดรธานีฯ ถือได้ว่าเป็นนักประวัติศาสตร์ เพราะได้ติดตามสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพมาตลอด ทำให้ทราบถึงความสำคัญของพระสุก และสามารถค้นพบ และได้อัญเชิญมาไว้ที่วัดศรีธรรมาราม แห่งเมืองยโสธร เพื่อเป็นอนุสรณ์แทนคุณแผ่นดินเกิดของท่าน